มาแนะนำแบล็คกราวประวัติศาสตร์และเบื้องหลังตัวละครหลักๆในซีรีส์ #ตำนานลั่วหยาง กันค่ะ
เอาแบบพอกรุบกริบเบาๆให้อินกัน
เรื่องนี้เป็นซีรีส์ย้อนยุคที่เน้นการสืบสวนแบบเข้มๆเป็นหลัก ซึ่งในซีรีส์ได้มีการแทรกสิ่งที่ถูกบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์จีนเอาไว้เยอะแยะมากมาย มีบ้างที่ดัดแปลงหรือเพิ่มเติม แต่อะไรที่ดึงมาได้ คือทีมงานดึงมาใส่ให้เราได้ชมกันหมดเลยค่ะเดิมทีประวัติศาสตร์ราชวงศ์ถัง(唐) อันยาวนานกว่า 289 ปี(ค.ศ.618-907) ได้ถูกปกครองโดยคนแซ่หลี่(李)ค่ะ แต่มันจะมีอยู่ประมาณ 15 ปีในนั้นที่พิเศษสุดๆ ซึ่งช่วงเวลาสั้นๆช่วงหนึ่งของราชวงศ์ถังที่ว่านั้น กลับเป็นหญิงแซ่อู่(武) ที่ก้าวขึ้นมาปกครองเหนือทุกคน ซึ่งก็คือ ‘พระนางบูเช็คเทียน’ สตรีนางเดียวในประวัติศาสตร์จีนที่ได้ขึ้นเป็นฮ่องเต้นั้นเองค่ะ
ช่วงเวลาสั้นๆ 15 ปี(ค.ศ.690–705) ที่พระนางขึ้นเป็นจักรพรรดินีนั้น ทรงสถาปนาราชวงศ์ของพระนางเอง คือ ราชวงศ์อู่โจว(บันทึกบอกว่า พระองค์ตั้งชื่อราชวงศ์ตามราชวงศ์โจวโบราณเมื่อ 1046 ปีก่อนคริสตกาลนู่นนน ทรงเชื่อว่าตนเป็นผู้สืบเชื้อสายมา) ทำให้ราชวงศ์ถังขาดตอนไปเล็กน้อย ซึ่งเรื่องราวที่ถูกเล่าถึงในซีรีส์ตำนานลั่วหยาง ก็คือช่วงเวลาใน ‘ราชวงศ์อู่โจว’ ของพระนางนี่แหละค่ะ เหตุการณ์ในซีรีส์จะเป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นในเมืองลั่วหยาง ซึ่งเมืองลั่วหยางก็คือเมืองหลวงในช่วงราชวงศ์อู่โจวค่ะ เดิมราชวงศ์ถังมีเมืองหลวงคือฉางอัน แต่พอพระนางบูเช็คเทียนขึ้นเป็นจักรพรรดินี พระนางก็ได้ทำการย้ายเมืองหลวงจากฉางอันมาอยู่ลั่วหยางแทน (ลั่วหยางเป็นเมืองที่ใหญ่มากๆ เคยเป็นเมืองหลวงของหลายราชวงศ์มาก่อน เช่น ราชวงศ์โจวตะวันออก ราชวงศ์ฮั่นตะวันออกด้วย) ฉะนั้นจากเดิมที่เคยรุ่งเรืองอยู่แล้ว พอพระนางย้ายมาปักหลักที่ลั่วหยาง ยิ่งทำให้ลั่วหยางเจริญรุ่งเรืองแบบสุดๆ ไม่แพ้เมืองฉางอันเลยค่ะ
และถึงจะเรียกว่าราชวงศ์อู่โจว แต่จริงๆก็เป็นกลิ่นอายของราชวงศ์ถังเต็มๆนะ เพราะจักรพรรดินีเคยเป็นสนมในสมัยของฮ่องเต้องค์ที่ 2 และ 3 แซ่หลี่แห่งราชวงศ์ถังมาก่อน(นึกถึงซีรีส์เรื่องบูเช็คเทียนเข้าไว้ค่ะ) ภายหลังพระโอรสขึ้นครองบัลลังก์ พระนางก็ยังมีบทบาทในการเข้ามาว่าราชการหลังม่านตลอด ดังนั้นทุกๆอย่างในยุคของพระนางก็คือได้รับมาจากช่วงราชวงศ์ถังโดยตรงค่ะ ทั้งระบบการเมือง การปกครอง ยังยึดตามแบบถัง 3 กระทรวง 6 กรม แต่พระนางทรงพัฒนาไปไกลกว่าเดิม
- ระบบสอบจอหงวน เปิดกว้างการสอบจอหงวนส่งเสริมให้บัณฑิตที่มีความสามารถเข้ารับราชการโดยไม่แบ่งชนชั้น ที่เปรี้ยวสุดก็คือ ยกระดับบทบาทของสตรีเพศเปิดโอกาสให้เข้ารับตำแหน่งราชการในระดับสูงด้วยเช่นกัน(ในซีรีส์เราก็จะเห็นสาวๆรับราชการทำงานกันจริงจังเลยล่ะ สตรีก็ถูกยกให้เท่าเทียมหรือเหนือกว่าบุรุษด้วยนะ ถ้าตำแหน่งฐานะสูงกว่าคือไม่ต้องคุกเข่าให้บุรุษเลย อย่างฉากแต่งงานก็มีเพียงเจ้าบ่าวเอ้อร์หลางที่คุกเข่าหรืออย่างขุนนางสาวข้างกายจักรพรรดินีก็ไม่ต้องคุกเข่าให้ใครยกเว้นจักรพรรดินีผู้เดียว แม้แต่รัชทายาทก็ไม่ต้องคุกเข่าให้ด้วยอ่ะ แต่ทำความเคารพก็ยังส่วนทำความเคารพ คุกเข่าก็ส่วนคุกเข่านะ)
- ลดภาษี ส่งเสริมอาชีพ ปราบปรามเหล่าขุนนางทุจริตแบบไม่มีกั๊ก ไม่มีใจอ่อน (ในซีรีส์ที่เห็นเหล่าขุนนางพากันกลัวพระนางมากกก ประชุมทีเหงื่อหยดเต็มพื้น ติ๋งๆๆ เพราะพระนางลงโทษโหดมากๆนั้นเองค่ะ ใครพลาดทำผิด ไม่มีปราณีเลย)
- ลดภาษี ส่งเสริมอาชีพ ปราบปรามเหล่าขุนนางทุจริตแบบไม่มีกั๊ก ไม่มีใจอ่อน (ในซีรีส์ที่เห็นเหล่าขุนนางพากันกลัวพระนางมากกก ประชุมทีเหงื่อหยดเต็มพื้น ติ๋งๆๆ เพราะพระนางลงโทษโหดมากๆนั้นเองค่ะ ใครพลาดทำผิด ไม่มีปราณีเลย)
- เปิดประเทศ มีการแลกเปลี่ยนทางเศรษฐกิจและวัฒนธรรมระหว่างประเทศแบบเสรีมากๆ(ในซีรีส์เราจะเห็นวัฒนธรรมที่หลากหลาย ทั้งสินค้า อาหาร การแต่งกาย ความเชื่อ ประเพณีต่างๆ มีกลุ่มชนเชื้อชาติอื่นๆที่เข้ามาเเลกเปลี่ยนวัฒนธรรมในเมืองมากมายด้วย)
- วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี อันนี้ก็ถูกพัฒนาไปมากค่ะ ทั้งการพิมพ์ สิ่งประดิษฐ์และดินปืน รวมถึงศิลปกรรม งานแกะสลักต่างๆ(ในซีรีส์ก็จะมีตระกูลไป๋หลี่ พ่อของเอ้อร์หลางเป็นผู้ดูแลกรมโยธาธิการ ดูแลผังเมือง ดูแลการก่อสร้างอาคารต่างๆในเรื่องด้วยและยังมีพวกเครื่องไม้เครื่องมือ สิ่งประดิษฐ์กลไกเจ๋งๆเยอะมากๆ)- ศาสนา อันนี้ก็โดดเด่นสุดๆในยุคนี้เลยค่ะ ในยุคนี้ศาสนาหรือความเชื่อต่างๆจะหลากหลายแล้วก็เปิดกว้างเช่นกัน มีทั้งลัทธิเต๋า, ลัทธิขงจื๊อ, ศาสนาเฉิน(คือความเชื่อเฉพาะกลุ่มของชาวบ้าน พระนางไม่ได้ปิดกั้นด้านความเชื่อชาวบ้านอยากเชื่ออะไรก็ได้) แต่ด้วยความที่พระนางบูเช็กเทียนศรัทธาในศาสนาพุทธเป็นอย่างมาก จึงยกให้เป็นศาสนาประจำชาติค่ะ จัดให้มีบูรณะวัดและปฏิมากรรมต่างๆในถ้ำ เช่น ถ้ำผาหลงเหมิน คือพระพุทธศาสนาได้รับการพัฒนาสูงสุดในประเทศจีนก็ในช่วงยุคของพระนางนั่นเองค่ะ สร้างวัดอลังการแถมมีวัดเยอะมาก วัดเส้าหลินก็อยู่โซนลั่วหยาง(ในซีรีส์เราจะเห็นจักรพรรดินี แต่งกายเรียบๆ มักจะนั่งสวดมนต์ ภายในตำหนักก็จะมีพระพุทธรูปองค์ใหญ่หรือว่าฉากในวัด ในถ้ำต่างๆในเรื่องล้วนแต่มีพระพุทธรูปอยู่หลายองค์เลยค่ะ)
ในช่วงที่พระนางบูเช็คเทียนขึ้นเป็นจักรพรรดินี ถือว่าสร้างความเจริญรุ่งเรืองให้จีนอย่างมากในหลายๆด้านก็จริง แต่ด้วยความที่เป็นสตรี บวกกับเป็นสนมมาก่อน แล้วก็มาเป็นฮองเฮาของลูกเลี้ยง ต่อมาก็ยังเป็นผู้สำเร็จราชการแผ่นดินอีก สุดท้ายก็ยึดอำนาจขึ้นปกครองเอง ความแซ่บตรงนี้ย่อมทำให้รอบกายมีแต่ศัตรูค่ะ ถึงแม้พระนางจะพยายามดึงคนตระกูลอู่มาคานอำนาจในราชสำนักแล้วก็ตาม แต่เหล่าขุนนางที่สนับสนุนตระกูลหลี่และคนที่เคยถูกพระนางลงโทษโหดๆก็จ้องจะทำลายพระนางตลอดเวลาเลย ทำให้เมืองลั่วหยางไม่ได้สงบสุขเท่าไหร่ การเมืองในตอนนั้นก็เดือดจริงๆ ไม่ว่าจะเกิดดราม่าอะไรฝั่งตระกูลอู่ก็หาทางโยนอึให้ตระกูลหลี่ ฝั่งตระกูลหลี่ก็จ้องแต่จะโค่นจักรพรรดินี ก็เป็นจุดสำคัญที่ซีรีส์เอามาถ่ายทอดเป็นเรื่องราวของกลุ่มคนร้ายในเงามืดและขุนนางที่จ้องจะทำลายเมืองลั่วหยางนั้นเองจ้า...
มาแนะนำตัวละครหลักๆในเรื่องกัน
สัปเหร่อผู้มากับความแค้น ‘เกาปิ่งจู๋’ เปิดมาด้วยความเถื่อนๆดิบๆ อดีตผู้นำเหมืองปู้เหลียง ในซีรีสปู้เหลียงจะเป็นที่อยู่ของชนชั้นล่างสุดๆ อยู่ใต้ดิน ใช้แรงงาน บ้างก็เป็นนักโทษ ถูกเนรเทศมา(แต่ในบันทึกประวัติศาสตร์ไม่มีเหมืองปู้เหลียงนะ ถ้าจะเนรเทศก็จะเนรเทศไปไกลๆจากเมืองหลวงเลยค่ะ เขาว่าอย่างน้อย 3 พันลี้น่ะ สถานที่ที่นิยมถูกเนรเทศมากที่สุดคือหลิ่งหนาน ในฉากซีรีส์จะเห็นพระพุทธรูปในถ้ำเยอะมาก น่าจะเป็นโซนถ้ำหลงเหมินค่ะ) พี่สัปเหร่อที่กลายมาเป็นผู้ต้องหาแบบงงๆ เขามาเพื่อตามล่าผู้อยู่เบื้องหลังลัทธิชุนชิว จะแก้แค้นให้กับเหล่าพี่น้องในเหมืองที่ถูกสังหารค่ะ พี่เกาโซฮอตมาก เหลียนฝ่างก็อยากได้ ลัทธิเทพก็มาตามตื้อให้พี่แกเข้าร่วมตลอด เก่งเกินเบอร์สู้ไม่ได้ก็ดึงมาเป็นพวกละกัน555 คือพี่แกจะลึกลับสุดในเรื่องละ ตกลงเป็นใครกันแน่ อาจเป็นไพ่ตายของเรื่องก็ได้ คนตัวเล็กๆที่เติบโตในเหมืองอันต่ำต้อยแต่เล่นใหญ่จนจนคนดูว้าว555(เกาปิ่งจู๋จะเป็นคนในประวัติศาสตร์ไหม เดาไม่ออกอ่ะ น่าจะเพิ่มบทบาทมาค่ะ) เอ้อร์หลางชวนชิม คุณชายสายซึนแห่งลั่วหยาง ‘ไป๋หลี่หงอี้’ วิศวะโยธาหนุ่มไฟแรง รูปหล่อ พ่อรวย แถมฉลาดสุดๆ ยังไม่ได้ก้าวเข้าไปเป็นขุนนางแบบเต็มตัว แต่ช่วยบิดาดูแลงานก่อสร้างต่างๆในลั่วหยาง ตึกอาคารบ้านช่องในลั่วหยางคุมเองกะมือเลย555(สิ่งประดิษฐ์งานก่อสร้างต่างๆในเรื่องก็ไม่เกินจริงค่ะ งานก่อสร้างหอเทียนถังก็มีการก่อสร้างจริง ตระกูลไป๋หลี่มีพูดถึงในประวัติศาสตร์ เป็นตระกูลขุนนางใหญ่แต่ไม่ได้เป็นชนชั้นสูง ในราชวงศ์สุยและอู่โจวไม่นับว่ามีพาวเวอร์ในหมู่ขุนนาง อาจจะเป็นตระกูลที่พระนางเรียกเข้ามาเพื่อคานอำนาจก็ได้ ฝั่งบิดาของพระนางเคยค้าไม้มาก่อน การส่งมอบเรื่องค้าไม้ให้ตระกูลไป๋หลี่ก็ถือว่าพระนางไว้ใจตระกูลนี้ในระดับหนึ่ง ไป๋หลี่มีอยู่จริงแต่ไม่ได้มีบทบาทเด่นชัด ไม่ใช่ตระกูลที่เข้าไปแจมในการแย่งอำนาจกัน) งานอดิเรกคือชอบกินมาก ผู้รอบรู้เรื่องกิน เอ้อร์หลางเป็นคนเงียบๆซึนๆ แสดงออกไม่เก่งแต่ไม่ได้ใสซื่อ ออกจะพูดตรงแทงใจดำ ไม่ได้ใส่ใจเรื่องอำนาจหรือความรัก เลยไม่ลงรอยกับบิดาตลอดค่ะ พอบิดาโดนใส่ความและถูกลอบสังหาร ในหัวก็คิดแต่เรื่องสืบความจริง ตระกูลไป๋หลี่อาจจะทำลายแผนการของลัทธิเทพได้ ดังนั้นจึงตกเป็นเป้าโจมตีตลอด ซึ่งกุญแจปริศนาสำคัญของเรื่องมากองอยู่ที่ตัวเขาหมดเลยนะ ทั้งแผนที่โดนจับงานแต่ง คดีทองแดงที่บิดามีเอี่ยว หรือผู้แจ้งข้อมูลลับที่พุ่งตรงมาหาเขาทั้งๆที่เขาไม่ได้ยุ่งเรื่องในราชสำนักเลย เอาจริงเอ้อร์หลางก็เจอศึกหนักรอบด้านนะนักสืบสาวสายสตรอง ‘อู่ซือเยว่’ ขุนนางหน่วยสืบสวนที่ขึ้นตรงต่อองค์จักรพรรดินี(ตามบันทึกหลังจากขึ้นปกครองพระนางพยายามดึงคนแซ่อู่เข้ามารับราชการเพื่อคานอำนาจเหล่าขุนนางจากฝั่งสกุลหลี่เยอะมากค่ะ ยังไม่รวมการอวยยศแต่งตั้งอ๋องจากญาติๆที่แซ่อู่ด้วย แต่ขุนนางฝั่งตระกูลหลี่ก็แข็งแกร่งกว่าอยู่ดีค่ะ เพราะฝั่งนั้นเขามีอำนาจในราชสำนักมานาน บ้างก็เป็นผู้ดีเก่าแก่ตั้งแต่ราชวงศ์ก่อนๆ) อาเยว่เป็นลูกหลานสกุลอู่ คือเป็นญาติห่างๆมีศักดิ์เป็นหลานองค์จักรพรรดินีก็ว่าได้ เป็นญาติสายรองที่ฐานะลำบาก ด้วยความอาเยว่เป็นหญิงแกร่ง ฉลาด คุณธรรมเต็มเปี่ยม ซื่อตรงสุดๆ องค์จักรพรรดินีเลยเอ็นดูอาเยว่มาก ไว้ใจมอบหมายให้สืบสวนเรื่องราววุ่นวายต่างๆได้เต็มที่ มีครั้งนึงอาเยว่ทำพลาด คุณต้าเกอก็รีบมารับหน้าให้น้องทันที บอกว่าน้องเปรี้ยวไปหน่อยแต่น้องต้องสืบเรื่องต่างๆให้ชัดเจนแน่นอน พระนางก็ไม่ต่อว่า แถมยังอมยิ้มบอกว่า เปรี้ยวเหมือนเราเลย555 รู้เลยว่าอาเยว่แบ็คดีโคตรๆ แต่ตัวละครนี้ก็สุ่มเสี่ยงจะโดนหลอกใช้ตลอดนะคะ เพราะอาเยว่ตรงไปตรงมามากๆ
คุณหนูผู้มากับความรวย ‘หลิ่วหราน’ คุณหนูผู้เกิดในตระกูลร่ำรวยที่มีอำนาจบารมีเป็นร้อยปี นางได้ท่านอาเลี้ยงดูอย่างดี นางใสซื่อ น่ารักมาก แอบปิ๊งไป๋หลี่หงอี้มาโดยตลอด พอมีโอกาสได้แต่งก็ตกลงทันที ถึงผู้จะเมินแต่ก็ดูแลเอาใจใส่ ทั้งเชื่อใจและจริงใจกับเอ้อร์หลางแบบสุดๆ โดยที่ไม่รู้เลยว่าตระกูลหลิ่วมีด้านมืดซ่อนอยู่ พัวพันไปถึงการตายของบิดาเอ้อร์หลางด้วย แต่ถึงอย่างงั้นก็ยังจะช่วยเอ้อร์หลางสืบต่อไป ชีเหนียงก็เข้มแข็งมากนะ ตอนหลังบิดาที่หายไปเป็นสิบปีกลับมา จู่ๆกลับมายิ่งมีลับลมคมในขึ้นไปอีก ชีเหนียงเป็นตัวละครที่มาเรียกความฮาเบาๆค่ะ หลายๆครั้งก็ช่วยเอ้อร์หลางสืบคดีได้แบบบังเอิญเป๊ะๆด้วย555 เพราะเป็นคนไม่คิดอะไรเยอะนี่แหละค่ะ เลยมองเห็นอะไรง่ายๆใช้วิธีง่ายๆ ทำให้เอ้อร์หลางมองเห็นสิ่งที่ตัวเองพลาดไปได้ตลอดเลย เก่งมากชีเหนียงงงง
องค์จักรพรรดินีผู้ครองเมืองนครเทพ 'พระนางบูเช็คเทียน' จักรพรรดินีแห่งราชวงศ์อู่โจว ขึ้นครองบัลลังก์ตอนอายุ 67 ปี ใบหน้ามักจะเรียบเฉยเย็นชา ความคิดลึกซึ้ง แต่ละประโยคที่เอ่ยล้วนแต่แฝงความนัย เหล่าขุนนางจะเกรงกลัวมากๆค่ะ เกิดเรื่องเข้าประชุมที หน้าซีด ขาสั่น เหงื่อหยดเต็มพื้นกันไปหมดเลย นั้นเป็นเพราะพระนางโหดจัดปลัดบอก ขนาดปลัดลาออกยังบอกว่าโหดจัด! (ตามบันทึกนี่ขุนนางที่ทำผิดโดนเก็บค่ะ พระนางเปิดกล่องให้ทุกคนสามารถแจ้งข่าวลับได้หมดแบบในซีรีส์เลยจริงๆ ใครทำเรื่องไม่ดีอะไรไว้ขอให้บอก พระนางจัดการหมด หรือแม้แต่ขุนนางฝ่ายตรงข้ามที่เคยต่อต้านพระนางในอดีต ถ้ามีช่องพระนางก็พร้อมใส่ไฟ หรือคนสกุลอู่เองที่แข็งข้อ ไม่เว้นแม้แต่พระราชโอรส พระนางก็หาทางเนรเทศรัวๆหรือประหารทันทีเลยนะ คือตามบันทึกอ่ะ มีคนสู่ลิขิตแบบไม่ทราบสาเหตุเยอะมากค่ะ) ถ้าขุนนางจ้องโจมตีตั้งแต่เป็นสนมยันเป็นจักรพรรดินี แถมโอรสก็อ่อนแอโดนครอบงำจากเหล่าขุนนาง อันนี้พระนางจำเป็นต้องเด็ดขาดจริงๆแหละ ในเรื่องถ้าคนร้ายโผล่มาที ต้องตามหาคนร้ายตัวจริงให้เจอแหละ แต่ระหว่างนั้นจะโยนความผิดให้ใครสักคนที่พระนางไม่ชอบ พระนางก็โอเคนะคะ คือน่ากลัวจริงๆ ขุนนางในราชสำนักก็ไม่รู้เลยว่าตัวเองจะโดนบ้างเมื่อไหร่อ่ะนะองค์รัชทายาท ‘หลี่ตุ้น’ รัชทายาทคนปัจจุบันซึ่งเคยถูกปลดจากบัลลังก์มาแล้วครั้งหนึ่ง เหตุเพราะหูเบาจะยกทั้งใต้หล้าให้พ่อตา จะยกจริงไม่จริงไม่รู้ค่ะ แต่ประโยคนี้ทำให้จักรพรรดินีกริ้วสุดๆ (ตามประวัติศาสตร์พระนางบูเช็คเทียนมีบุตรชายทั้งหมด 4 คน องค์รัชทายาทในเรื่องก็น่าจะเป็นจักรพรรดิถังจงจง ‘หลี่เสียน’ ค่ะ เพราะถูกพระนางปลดจากบัลลังก์ด้วยเหตุผลเดียวกันกับในเรื่องเลย…จริงๆโอรสแท้ๆของพระนางที่ได้ขึ้นเป็นจักรพรรดิมีสององค์ค่ะ จักรพรรดิถังจงจงและจักรพรรดิถังรุ่ยจง ถังจงจงได้บัลลังก์แต่อำนาจอยู่ที่พระราชมารดา พออวยพ่อตามากจึงโดนพระราชมารดาปลด เหลือยศอ๋อง เนรเทศจับกักตัวหกปี ระหว่างนั้นพระนางก็ดันถังรุ่ยจงขึ้นบัลลังก์แทน แต่สุดท้ายก็ถูกบีบให้สละราชบัลลังก์ให้กับพระราชมารดาอยู่ดี ภายหลังพระนางได้กลายเป็นจักรพรรดินี ถังรุ่ยจงจึงกลับไปเป็นรัชทายาท แต่ต่อมาพระนางก็เรียกถังจงจงจากการเนรเทศ 14 ปีให้กลับมารับตำแหน่งรัชทายาทแทนที่ถังรุ่ยจงอีกค่ะ คือเป็นมหากาพย์แห่งการปลดเข้าปลดออกมากอ่ะ555 ในเรื่องที่รัชทายาทดูมีอายุก็ไม่ต้องสงสัยนะคะ)
พระชายาองค์รัชทายาท ‘ตู้ซื่อ’ ในเรื่องคือมีลับลมคมในตั้งแต่ฉากแรก ธิดาสุดที่รักโดนลอบสังหาร แต่ก็ดูชิวเกินเหมือนรู้อยู่แล้ว สายตาที่ดูมีซัมติ้งกับอู่โยวเจวี๋ยพี่ชายของอาเยว่นั้นมันอะไรรร (ถ้าในเรื่ององค์รัชทายาทคือ จักรพรรดิถังจงจง ก็มีความเป็นไปได้ที่ พระชายาตู้ซื่อจะเป็น จักรพรรดินีเหวย ตามประวัติศาสตร์ สตรีที่มีพระนางบูเช็กเทียนเป็นไอดอลลล คือพยายามจะครอบงำจักรพรรดิถังจงจงและยึดอำนาจการปกครองแผ่นดินมาเป็นของตนด้วยค่ะ ดูจากจริตในซีรีส์ก็ร้ายอยู่นะ)
อ๋องตงชวน 'หลี่อี้เฉิน' หลานชายของจักรพรรดินี ภายนอกเป็นอ๋องเจ้าสำราญ ความจริงเขาคือผู้ดูแลเหลียนฝ่าง องค์กรลับที่คอยเป็นหูเป็นตา สืบข่าวทั่วราชอาณาจักรให้แก่จักรพรรดินีนั้นเองค่ะ ท่านอ๋องมีความร้ายลึกนะ ลึกลับรองจากพี่เกาปิ่งจู๋เลย ตอนเป็นอ๋องก็ร่าเริง อยู่ต่อหน้าเสด็จย่าก็ขี้กลัว พอเข้าโหมดเถ้าแก่เหลียนฝ่างก็เย็นชาลึกลับขึ้นมาเลย เล่นละครเก่งมาก ยิ่งตอนงานเลี้ยงที่อาเยว่กับเอ้อร์หลางพยายามถ่วงเวลาหลิ่วเซียง ท่านอ๋องดูมีส่วนร่วมมาก ดูรู้แผนการเขาหมดอ่ะค่ะ555 ไม่รู้ร้ายแค่ไหนแต่ก็เป็นตำแหน่งที่สามารถนั่งรอเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ได้นะ อย่างไหร่ก็เป็นลูกหลานฝั่งตระกูลหลี่ (ถ้าพูดถึงรุ่นหลานของพระนางบูเช็กเทียน มีท่านอ๋องอยู่หลายคนค่ะ แต่ที่โดดเด่นจริงๆจะมี 'หลี่หลงจี' โอรสองค์ที่สามของถังรุ่ยจง ตอนหลังขึ้นเป็นจักรพรรดิถังเสวียนจง พระนางพยายามเป็นมิตรกับรุ่นหลานนะคะ เพราะรุ่นลูกคือสุ่มเสี่ยงจะโดนครอบงำกันหมด ในซีรีส์อ๋องตงชวนก็มีความเป็นไปได้ที่จะเป็นญาติจากทางฝั่งถังรุ่ยจงค่ะ)
ผู้ดูแลหน่วยสืบสวน ‘อู่โยวเจวี๋ย’ เป็นพี่ชายของอาเยว่ด้วย ภายนอกขี้โรค อ่อนแอ สุขุม รักน้องสาวมากกก ดูแลหน่วยองค์รักษ์ เป็นแขนขาให้จักรพรรดินี เหมือนไม่มีอะไร แต่มีอะไรนะเราดูออก ทรงต้าเกอดูมีซัมติ้งมากค่ะ มักจะเบรกการสืบของอาเยว่แบบเนียนๆ พยายามเตือนน้องให้ห่างๆจักรพรรดินีตลอด เล่นงานขัดเกาปิ่งจู๋อีก เวลาเลิ่กลั่กก็ แค่กๆข้าป่วย…อ่อนแอบ่อยมาก ดูถ่อมตัวแต่พออ๋องจิ้น(ญาติที่จักรพรรดินีแต่งตั้งเป็นอ๋อง) มอบตำแหน่งให้ก็รับแบบ อืมก็ได้คับ…555 ไม่รู้ว่าร้ายไหมแต่ก็ถ้าพี่ชายจะเป็นตัวร้ายก็ลงตัวหมดนะคะ หลายซีนประจวบเหมาะเกิน ตอนกล่อมอ๋องจิ้นไม่ให้ใส่ร้ายไท่จื่อมีความเข้าข้างไท่จื่อเบาๆอ่ะ เป็นคนที่อู๋ซือเยว่ไว้ใจมากที่สุดด้วยแหละ ตัวเอกในเรื่องต้องโดนคนสนิทใจหักหลังสิ มันเป็นพลอตตตต555 ขอระแวงก่อนทรงพี่ร้ายอ่ะ(ถึงจะเป็นคนตระกูลอู่ ก็ไม่ได้หมายความว่าจะเลิฟจักรพรรดินีกันหมดนะคะ ตามบันทึกพระนางเองก็ขัดแย้งกับคนตระกูลตัวเองเช่นกัน ใครที่เข้ามาแล้วมีปัญหาก็โดนเนรเทศ โดนใส่ร้ายประหารไปเยอะอยู่ ถ้าเป็นญาติตระกูลอู่สายหลักก็ได้รับแต่งตั้งบรรดาศักดิ์เป็นอ๋อง มียศสวยๆ แต่อย่างอู่โยวเจวี๋ยที่เป็นสายรอง ก็เป็นแค่ขุนนางเท่านั้นนะ ยังโดนดูถูก ก็มีความเก็บกดเบาๆค่ะ)
...
cr: ข้อมูลและรูปภาพจาก วิกิพีเดียบูเช็คเทียน, 武则天百度⛔ปล.ไม่อนุญาตให้คัดลอกหรือนำบทความไปใช้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากเพจโรงเตี๊ยมยุทธภพ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น