โจวกงคายข้าว & สามหนังสือหกพิธีการ

    ในเรื่อง #เทียบท้าปฐพี เฟิ่งชีอู๋ได้กลายเป็นขุนนางคนสนิทของเฟิงหลานซี/เฮยเฟิงซี มีความแท็กทีม วางแผนตอกกลับพวกตัวร้ายตลอด เรียกได้ว่าเป็นมือขวาของเฟิงหลานซีเลย ซึ่งจริงๆเฟิ่งชีอู๋นางแอบปลื้มเฟิงหลานซีด้วย สองคนนี้เกือบจะได้หมั้นหมายกันด้วยซ้ำ คนนึงอยากแต่งงานด้วย อีกคนก็ปฎิเสธทันทีทันใด แต่ถึงอย่างงั้นก็ยังมองหน้ากันติด ยังเป็นเพื่อน ยังเป็นเจ้านายลูกน้องกันได้อยู่นะ
    มาดูการขอแต่งและปฏิเสธของสองคนนี้กันค่ะ มันช่างดูเว่อร์วัง มีความแพรวพราว ดูมีความรู้ ดูไม่เสียหน้า ไม่เสียมิตร ดูมีชั้นเชิงแบบชั้นสูงเขาคุยกันเลยอ่ะ555😎👍
    พี่เฮยของเราในใจนั้นมีแต่ใต้หล้า มีแต่ปฐพี ไม่มีกะจิตกะใจ กะนุ้งกะนิ้ง กะปุ๊กกะปิ๊ก ไปวิ่งตามใคร รักๆใคร่ๆพี่ไม่ยุ่งค่ะ(หราาา) พอเจ๊ซีอู๋มายื่นขอเสนอให้แต่งงานกัน พี่แกก็ตอบว่า...กับแม่สาวชุดขาวที่สวยๆน่ารักๆแถวโยวโจวเป็นดั่งเฟื่อน ส่วนเจ้าก็เป็นดั่ง #โจวกงคายข้าว ก็พอนะ
    เดี๋ยวนะ...ใครคายข้าว เกี่ยวอะไรคะ555🤣
    โจวกงคายข้าว หรือ จิวกงคายข้าว หรือ เจ้าโจวคายข้าว อารมณ์ประมาณสุภาษิตจีนค่ะ ประโยคเต็มก็คือ 'โจวกงคายข้าว โลกจึงบังคม' (周公吐哺 天下归心/โจวกงถูปู่ เทียนเซี่ยกุยซิน) ประโยคนี้มาจากบทกวีต่วนเกอสิง (短歌行) ที่พูดอวยโจวกงของโจโฉ...โจวกงถือเป็นไอดอลด้านการปกครองของโจโฉเลยค่ะ
    ย้อนกลับไปในสมัยราชวงศ์โจว 'โจวกง' เป็นพระอนุชา(น้องชาย)ของฮ่องเต้แห่งราชวงศ์โจว(พระเจ้าโจวอู่หวัง) หลังจากฮ่องเต้แห่งราชวงศ์โจวสิ้นพระชนม์ พระโอรส 'เฉินหวัง' ก็เสด็จขึ้นครองราชย์ แต่ด้วยยังทรงพระเยาว์ โจวกงจึงกลายเป็นผู้สำเร็จราชการแทน นั้นทำให้เหล่าขุนนางบางกลุ่มเกิดความไม่พอใจและปล่อยข่าวลือเรื่องการกบฏของโจวกงขึ้นมาค่ะ ไหนจะเหล่าขุนนางเก่าแก่ที่ต้องการจะกอบกู้ราชวงศ์ชาง(ราชวงศ์ก่อนหน้า)อีก ท่ามกลางความขัดแย้งและราชวงศ์เริ่มอ่อนแอลง โจวกงไม่สนข่าวลือ มุ่งมั่นแต่บริหารบ้านเมือง ปราบปรามกบฏ วางรากฐานในการปกครองใหม่ ทำระเบียบแบบแผนและขนบธรรมเนียมพิธีการต่างๆในราชสำนักอย่างแข็งขัน รับบทเดอะแบกแห่งราชวงศ์โจว สู้ชีวิตสุดๆ
    ตามบันทึกประวัติศาสตร์ โจวกงเป็นคนที่อ่อนน้อมถ่อมตนมาก คบค้าสมาคมหรือทำงานกับใครก็ไม่ถือยศถือศักดิ์ แถมยังจริงจังกับการทำงานสุดๆ หากมีราชกิจ ข่าวสาร งานด่วนหรือแม้แต่แขกมาขอพบ โจวกงก็จะทิ้งทุกอย่างไปพบทันที หากมาหาตอนกินข้าวก็จะคายข้าวทิ้งแล้วออกไปต้อนรับ มาสามมื้อก็คายทิ้งทั้งสามมื้อเลยค่ะ หลายครั้งที่กำลังสระผม ก็ไม่รอจนผมแห้ง ออกไปรับสารทั้งผมเปียกๆเลยด้วย เป็นขุนนางที่ทุ่มเทสุดๆ👍
    ซึ่งภายหลัง เฉินหวังทรงบรรลุนิติภาวะ โจวกงก็ได้คืนอำนาจการปกครองให้หลานและกลับสู่ตำแหน่งขุนนางตามเดิม อุทิศตนเพื่อพัฒนาราชวงศ์โจวให้เจริญรุ่งเรือง ดังนั้นโจวกงจึงถือเป็นหนึ่งในนักปกครองที่ยอดเยี่ยมแห่งยุค เป็นที่ชื่นชม เป็นขุนนางที่ซื่อสัตย์ ขยันทำงาน เสียสละเพื่อบ้านเมืองและเต็มไปด้วยคุณธรรม เป็นแบบอย่างของเหล่าขุนนางและนักปราชญ์รุ่นใหม่ เป็นยอดบุคคลในอุดมคติของขงจื๊อด้วยนะคะ ระบบพีธีกรรม การปฏิบัติตน อุดมคติทางการเมืองต่างๆในลัทธิขงจื๊อก็มีต้นแบบมาจากท่านโจวกง ก็เป็นที่มาของประโยค โจวกงคายข้าว เป็นการเปรียบเปรยถึงขุนนางในอุดมคตินั้นเองค่ะ😎👍
    ดังนั้นการที่พี่เฮยบอกว่า อยากให้เฟิ่งชีอู๋เป็นดั่งโจวกง ก็คืออยากให้เป็นแค่ลูกน้องนั้นแหละค่ะ แต่ไม่ใช่แค่ขุนนางธธรรมดา เป็นยอดขุนนางที่ไม่เพียงแต่ซื่อสัตย์ต่อเขา ต้องมีคุณธรรมและทุ่มเทกับงานให้เขาด้วย(ลองนึกภาพสาวมาบอกชอบ แต่พี่แกบอกให้เป็นแบบท่านโจวกงสิ ทำงานตัวเป็นเกลียว เอะอะคายข้าว ผมเปียกทำงาน เฟิ่งชีอู๋จุกไปเลยสิ พี่แกก็ช่างสรรหาคำมาปฏิเสธเนอะ🤣) แต่การตอกกลับแบบนี้ก็แสดงถึงความจริงใจนะคะ แสดงว่าพี่แกอยากให้นางเป็นมือขวาจริงๆ อยากให้นางเป็นยอดขุนนางของเขา แถมยังบอกถึงเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ของตัวเองให้นางรู้ คือจริงจังนะ ทำให้นางรู้ถึงขอบเขตสถานะของตัวนางด้วย
...
    ทางเฟิ่งชีอู๋เอง เหมือนเป็นตัวแทนของสาวยุคใหม่เลยค่ะ สวยเก่ง เป็นผู้นำตระกูล สำหรับนางแล้วตระกูลคือสิ่งที่สำคัญที่สุด ชีอู๋ทั้งปลื้มและนับถือพี่เฮย ไม่ใช่แค่รูปงามฉลาด แต่ความคิดความอ่านพี่แกลึกซึ้ง(มาก) หากนางต้องเลือกนาย ก็ต้องคนแบบพี่เฮยนี่แหละที่คุ้มค่าให้นางรับใช้ ยิ่งถ้าได้เกี่ยวดองกันคือเพอร์เฟคไปสิ แต่จะให้สาวมั่นอย่างนางเดินไปบอกชอบค่ะ! รักนะคะ! แต่งกันเถอะ!...มันก็ไม่ได้555 การวางตัวและการกระทำของนางหมายถึงความเป็นตายของทั้งตระกูลเฟิ่งเลยนะคะ มันต้องมีชั้นเชิงและทางหนีทีไล่เพื่อรักษาความสัมพันธ์ทางการเมืองไว้ด้วย (อีกอย่างนางเป็นถึงขุนนางหญิงตำแหน่งใหญ่โตในราชสำนัก ก็ต้องรักษาหน้าตัวเองนิสนึง) นางเลยเสนอให้พี่เฮยจัด #สามหนังสือหกพิธีการ มาให้นางค่ะ
    สามหนังสือ หกพิธีการ (三书六礼/ซานชูลิ่วหลี่) ก็คือขั้นตอนในการสู่ขอเจ้าสาวที่สืบทอดกันมาแต่โบราณค่ะ ระเบียบสามหนังสือหกพิธีการ เริ่มใช้กันในสมัยราชวงศ์โจวด้วย การแต่งงานจะต้องมีการมอบหนังสือสามเล่มและดำเนินพิธีการ 6 ข้อ 
สามหนังสือ
    - หนังสือหมั้นหมาย คือหนังสือขอหมั้นและคำมั่นสัญญาของคู่บ่าวสาวที่ทางฝ่ายชายมอบให้ฝ่ายหญิง
    - หนังสือสินสอด คือหนังสือที่ใช้ประกาศในวันงาน แสดงรายการของหมั้ันและของขวัญแต่งงาน 
    - หนังสือรับตัว คือหนังสือที่ฝ่ายชายมอบให้กับผู้ใหญ่ในวันแต่งงานเพื่อรับตัวเจ้าสาวอย่างเป็นทางการ 
หกพิธีการ
    1. การสู่ขอ ฝ่ายชายและแม่สื่อจะมีการไปทาบทามสู่ขอกับผู้ใหญ่ของฝ่ายหญิง 
    2. ถามชื่อ วันเดือนปีเกิด หลังจากตกลงเรียบร้อย บ้านฝ่ายหญิงจะมอบชื่อและวันเดือนปีเกิดของเจ้าสาวให้ฝ่ายชาย เพื่อเช็คว่าดวงสมพงษ์กันหรือไม่
    3. การเสี่ยงทาย บ้านฝ่ายชายจะมีการนำชื่อและวันเดือนปีเกิด ไปวางหน้ารูปปั้นเทพเจ้าหรือบนโต๊ะบูชาบรรพบุรุษ นำมาเสี่ยงทาย หากไม่มีสัญญาณอัปมงคล พิธีแต่งงานก็จะเริ่มต้นขึ้นเลย
    4. ส่งสินสอด หมั้นหมาย ฝ่ายชายจะส่งหนังสือหมั้นและหนังสือสินสอดให้ฝ่ายหญิง ตามด้วยสินสอดและของขวัญ 
    5. ดูฤกษ์ยาม บ้านฝ่ายชายจะเป็นคนจัดหาฤกษ์งานแต่ง นำมาตกลงกับบ้านฝ่ายหญิง
    6. รับตัวเจ้าสาว ในวันแต่งงานฝ่ายชายก็จะเดินทางนำขบวนไปรับตัวเจ้าสาวและกราบไหว้บรรพบุรุษของฝ่ายหญิง จากนั้นก็พาเจ้าสาวขึ้นเกี้ยวมาทำพิธีกราบไหว้ฟ้าดินต่อที่บ้านฝ่ายชาย จัดงานเลี้ยงและส่งตัวเข้าหอ เป็นอันเสร็จพิธีการค่ะ
    ความหมายของเฟิ่งชีอู๋ที่เสนอให้พี่เฮยส่งสามหนังสือ จัดหกพิธีการให้นาง ก็คือให้พี่เฮยแต่งงานกับนางนั้นเองค่ะ ยกเรื่องแต่งงานเพื่อรวมอำนาจ แต่งเพื่อให้มั่นใจว่าตระกูลนางจะมีที่พึ่งพา เพื่อให้ทุกคนรู้ว่าตระกูลเฟิ่งเป็นคนของพี่เฮยนะ นางก็ไม่ได้บอกชอบตรงๆ กลับพูดอย่างเป็นทางการแทน ถึงโดนปฏิเสธก็ไม่ได้กระอักกระอ่วนใจกัน นางอยากให้พี่เฮยรับรู้มากกว่า ว่าตระกูลเฟิ่งอยู่ข้างพี่แกละนะ ถ้างานเข้าตระกูลเฟิ่งพี่ต้องช่วยนะ จะแต่งไม่แต่งก็ต้องช่วยกันด้วยนะ อีกอย่างนางกะจะลองใจพี่เฮยด้วยว่าไม่ได้โลภถึงขั้นเกาะอำนาจผู้หญิงจริงๆ ...ถ้าพี่เฮยไม่กางเขี้ยวเล็บออกมา นางอาจจะต้องอยู่ข้างแม่เลี้ยงไป๋หลี่แทน โดนกดอำนาจมากกว่านี้อีก พี่เฮยคือทางรอดเดียวของนางละ ชีอู๋เป็นคนประเภทเดียวกะพี่เฮย ไม่แปลกใจที่มาอยู่แก๊งค์เดียวกันได้555🤣 น้องไป๋น่าจะชอบคนนิสัยแบบชีอู๋นะ แนวสาวแกร่ง หวังว่าชีอู๋จะไม่ร้าย อยากให้มาแท็กทีมกะพระนางจนจบเลยเนอะ😊
    เรื่องนี้พาร์ทการเมืองค่อนข้างเข้มข้น สู้กันเอาเป็นเอาตายเลยค่ะ บทพูดการกระทำต่างๆจะมีชั้นเชิง มีแฝงความนัยตลอด ถ้ารู้ความหมายก็จะแหมมมมมมม...ช่างเจรจากันจริงๆ ก็อินมากขึ้นค่ะ😝
...
⛔ปล.ไม่อนุญาตให้คัดลอกหรือนำบทความไปใช้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากเพจโรงเตี๊ยมยุทธภพ

ความคิดเห็น